วันพฤหัสบดีที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2556

แบบฝึกหัดท้ายบทที่ 7

แบบฝึกหัดท้ายบทที่ 7


1. จงอธิบายถึงผลกระทบของเทคโนโลยีด้านต่าง ๆ ต่อไปนี้

  1.1        ด้านเศรษฐกิจ
    = ทำให้สังคมมีชีวิตที่เร่งรีบและมีการแข่งขันที่สูง คนที่ใช้สมองจะมีเงินเดือนมากกว่าคนใช้แรงงานทำให้เกิดคนชั้นกลางมากขึ้น และส่งผลถึงสิ่งแวดล้อม เพราะเมื่อมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยการทำลายสิ่งแวดล้อมก็จะทำได้เร็วขึ้น

  1.2        ด้านการศึกษา
       =การเรียนรู้สามารถเปลี่ยนแปลงได้เร็วซึ่งทำให้เปลี่ยนไปจากรูปแบบเดิม เช่นผู้เรียนสามารถเลือกเวลาเรียนหรือวิชาที่ตัวเองชอบได้เองโดยไม่ต้องมีตรารางเรียน และเทคโนโลยียังส่งผลถึงปัญหาสิ่งแวดล้อม เมื่อสิ่งแวดล้อมไม่ได้การเรียนการสอนก็จะได้รับผลกระทบตามมาด้วย

  1.3        ด้านกฏหมาย ศีลธรรม จริยธรรม
     = ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เมื่อชีวิตมีความเร่งรีบ มีการแข่งขันที่สูงทำให้คนในสังคมเกิดการเห็นแก่ตัวไม่สนใจคนรอบข้างคิดหาแต่หนทางที่จะเอาเปรียบเพื่อให้ได้มาซึ่งผลประโยชน์ต่อตนเองโดยไม่คิดว่าคนอื่นจะเดือดร้อนเพียงใด

2.จากผลกระทบข้อที่ 1 นักศึกษาคิดว่า ผลกระทบด้านใดมีผลต่อการดำเนินชีวิตของนักศึกษามาก
  ที่สุด จงอธิบายมาพอสังเขป
 =  ด้านเศรษฐกิจ เพราะ เป็นปัจจัยหรือปัญหาหลักของทุกปัญหา เช่น ทำให้เกิดค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นจากการผลิตสินค้าที่ออกมาใหม่อยู่ตลอด เกิดการแข่งขันที่สูง สิ่งแวดล้อมรอบตัวถูกทำลายส่งผลไปถึงเรื่องของสุขภาพที่จะเกิดขึ้นตามมา

3.จงบอกผลดีของการนำเทคโนโลยีมาใช้ ในด้านการเรียนและการดำรงชีวิตประจำวันของนักศึกษา
    = ทำให้การเรียนการสอนเป็นไปอย่างมีคุณภาพ มีเนื้อหาที่หลากหลาย การสืบค้นข้อมูลต่างๆเป็นไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ได้รับข่าวสารใหม่ๆอยู่ตลอดทำให้สามารถปรับตัวหรือการใช้ชีวิตได้ทันเหตุการณ์

4.จงบอกผลเสียของการนำเทคโนโลยีมาใช้ ในด้านการเรียนและการดำรงชีวิตประจำวัน
  ของนักศึกษา
    =ทำให้เกิดช่องว่างทางการศึกษา เช่น ระหว่างเด็กที่อยู่ในเมืองกับเด็กที่อยู่ตามชนบท และการเรียนรู้อาจมีความเบื่อหน่ายเพราะเด็กต้องเรียนเรื่องเดิมๆอยู่ตลอดเด็กจึงไม่ใส่ใจจึงทำให้การเรียนไม่เิกิดความรู้ และทำให้การใช้ชีวิตเป็นไปอย่างไม่มีความสุขเพราะ การมีชีวิตที่เร่งรีบ บวกกับการมีค่าใช้จ่ายที่มากขึ้นตามไปด้วย

อนวัช ธนสีลังกูร   2/3  เลขที่ 25   54091302153

แบบฝึกหัดท้ายบท ที่ 6

แบบฝึกหัดท้ายบท ที่ 6

1.แหล่งสารสนเทศมีความสำคัญอย่างไร
ตอบ สารสนเทศเป็นทรัพยากรที่สำคัญที่สุดของโลกประเภทหนึ่ง ซึ่งองค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติได้กำหนดไว้มี 3 ประเภท คือ ทรัพยากรธรรมชาติ ทรัพยากรมนุษย์ และทรัพยากรสารสนเทศ อันถือว่าเป็นสิ่งมีคุณค่าที่เกิดจากภูมิปัญญาของมนุษย์ เป็นทรัพย์สินทางปัญญาสามารถเพิ่มเติมโดยไม่หมดสิ้น ทั้งยังสามารถนำกลับมาใช้ได้อีก ในสภาพสังคมปัจจุบันความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีด้านต่าง ๆ ทำให้มีการถ่ายทอดสารสนเทศออกมาในปริมาณที่มากมายมหาศาลและหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นทรัพยากรตีพิมพ์ เช่น หนังสือ วารสาร และสิ่งพิมพ์รูปแบบต่าง ๆ ทรัพยากรไม่ตีพิมพ์ เช่น โสตทัศนวัสดุและวัสดุย่อส่วน ตลอดจนทรัพยากรอิเล็กทรอนิกส์ จะเห็นได้ว่าสารสนเทศบรรจุอยู่สื่ออันมีรูปแบบแตกต่างมากมายกว่าในอดีตและแพร่กระจายไปทั่วทุกมุมโลก ดังนั้น ห้องสมุดจึงไม่ใช่แหล่งสารสนเทศเพียงแหล่งเดียวที่ผู้ใช้จะหาสารสนเทศที่ต้องการได้ แต่ยังสามารถเสาะแสวงหาสารสนเทศจากแหล่งสารสนเทศอื่น ๆ ได้อีกมากมาย ผู้ใช้จึงควรเลือกแหล่งและทรัพยากรสารสนเทศให้เหมาะสมสอดคล้องกับความต้องการเพื่อจะได้สามารถนำสารสนเทศไปใช้ให้เป็นประโยชน์อย่างเต็มที่
คำว่า “แหล่งสารสนเทศ” หมายถึง แหล่งที่เกิด / แหล่งผลิต และ/หรือ แหล่งที่เป็นศูนย์รวมทรัพยากรสารสนเทศใน รูปลักษณ์ที่หลากหลายไว้ให้บริการ โดยมีบทบาทหน้าที่ต่อสังคมในการให้บริการสารสนเทศและส่งเสริมการศึกษาค้นคว้าแก่ผู้ต้องการสารสนเทศในระดับต่าง ๆ กัน
2.เราสามารถค้นคว้าหาข้อมูลจากแหล่งสารสนเทศที่ใดได้บ้าง และในแหล่งนั้นๆ มีข้อมูลสารสนเทศในรูปแบบใดตอบ 1. แหล่งสารสนเทศที่เป็นสถาบัน จำแนกได้ดังนี้
•ห้องสมุด (Library) คือสถานที่รวมทรัพยากรสารสนเทศสาขาวิชาต่าง ๆ ที่อยู่ในรูปของวัสดุตีพิมพ์และวัสดุไม่ตีพิมพ์ รวมทั้งฐานข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยมีบรรณารักษ์เป็นผู้บริหารงาน และดำเนินงานต่าง ๆ เพื่อให้บริการแก่ผู้ใช้ห้องสมุด

• ศูนย์สารสนเทศ (Information Center) แหล่งสารสนเทศประเภทนี้แต่ละแหล่งมีชื่อต่าง ๆ กัน อย่างไรก็ตามล้วนมีจุดมุ่งหมายเพื่อบริการสารสนเทศเฉพาะสาขาวิชา เช่น ศูนย์สารสนเทศทางการเกษตรแห่งชาติ ศูนย์เอกสารประเทศไทย ศูนย์ข้อมูลทางเทคโนโลยี และศูนย์สารนิเทศอีสานสิรินธร
2. แหล่งสารสนเทศที่เป็นสถานที่ ได้แก่ อนุสาวรีย์ โบราณสถาน อุทยานแห่งชาติรวมถึงสถานที่จำลองด้วย เช่น อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ปราสาท หินพิมาย เมืองโบราณ เป็นต้น แหล่งสารสนเทศเหล่านี้ มีประโยชน์ต่อการศึกษาค้นคว้าอย่างยิ่ง ทั้งยังเป็นแหล่งที่เข้าถึงได้ไม่ยากนัก ข้อด้อยของแหล่งสารสนเทศที่เป็นสถานที่ก็คือ สถานที่บางแห่งอยู่ไกล การเดินทางไปสถานที่แห่งนั้นต้องใช้เวลาและค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมาก
3. แหล่งสารสนเทศที่เป็นบุคคล ได้แก่ ผู้เชี่ยวชาญ ผู้รอบรู้ ในสาขาต่างๆ ผู้ต้องการ สารสนเทศจากบุคคลต้องไปพบปะสนทนาหรือสอบถามจากผู้เชี่ยวชาญนั้นโดย ตรงจึงจะได้สารสนเทศที่ต้องการ
4. แหล่งสารสนเทศที่เป็นเหตุการณ์ ได้แก่ กิจกรรมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น เช่น การประชุมการสัมมนาในเรื่องต่าง ๆ นิทรรศการหรืองานแสดงต่างๆ รวมทั้งเหตุการณ์สำคัญๆ ในประวัติศาสตร์ เช่น "14 ตุลา"ในปี พ.ศ. 2516 "พฤษภาทมิฬ" ในปี พ.ศ. 2535 เป็นต้น
5. ศูนย์บริการสารสนเทศแบบซีดีรอม และแบบออนไลน์ ศูนย์บริการประเภทนี้มีวิวัฒนาการ สืบเนื่องมาจากศูนย์สารสนเทศที่ได้อธิบายไปข้างต้น เมื่อเทคโนโลยีสารสนเทศ ก้าวหน้ามากขึ้น ศูนย์ฯ จึงนำ IT มาเป็นเครื่องมือ ในการให้บริการแก่ลูกค้า เพราะสามารถให้บริการได้สะดวกและรวดเร็วกว่า IT ที่ ศูนย์บริการสารสนเทศนำมาใช้มีทั้งการจัดทำเป็นซีดีรอมให้ผู้ขอซื้อบริการ ซึ่งส่วนใหญ่ก็คือ บรรดาห้องสมุดต่างๆ และการจัดบริการออนไลน์ ให้ห้องสมุดต่างๆ ใช้คอมพิวเตอร์ค้นหาบทความ ในฐานข้อมูลที่ศูนย์ได้จัดทำขึ้น อย่างไรก็ตาม การใช้ซีดีรอมนั้น มีปัญหาในเรื่อง ความสมบูรณ์ และทันสมัยของเนื้อหา ดังนั้นจึงนิยมใช้การค้นแบบออนไลน์มากกว่า แม้จะต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น

6. อินเทอร์เน็ต เป็นแหล่งสารสนเทศที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพราะหน่วยงานต่างๆ รวมทั้งสถาบันวิจัย มหาวิทยาลัย สำนักข่าวสาร และสมาคมวิชาชีพ ต่างก็จัดทำข้อมูลประชาสัมพันธ์ออกมาเผยแพร่เป็นจำนวนมาก จึงทำให้อินเทอร์เน็ตประกอบด้วยข้อมูลและสารสนเทศมากมาย การที่จะได้มาซึ่ง
ข้อมูลที่ต้องการจึงต้องรู้ที่อยู่ของเว็บไซต์ที่ต้องการ โดยเครื่องมือหนึ่งที่มีประโยชน์ในการค้นหาที่อยู่ของเว็บไซต์ที่ต้องการคือ Search Engine ซึ่งมีหลายลักษณะ คือ
• Major Search Engine - Search Engine ที่มีฐานข้อมูลเป็นของตัวเอง เป็น Search Engine ชั้นนำ เพื่อค้นหาเว็บไซต์ที่ต้องการ เช่น
Google.com,Yahoo.com
• Meta Search Engine - Search Engine ที่ไม่มีฐานข้อมูลเป็นของตนเองแต่อาศัยฐานข้อมูลจาก Search Engine อื่น ๆ หลายแห่งมาแสดง
• Directory Search Engine - Search Engine ประเภทหนึ่ง ที่มีการจัดเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นหมวดหมู่



3.จงยกตัวอย่างแหล่งสืบค้นข้อมูล(search engine) ว่ามีชื่ออะไรและมีรูปแบบและเทคนิค
การสืบค้นข้อมูลอย่างไรมาอย่างน้อย 1 ตัวอย่าง

ตอบ การค้นหาในรูปแบบ Index Directory 
วิธีการค้นหาข้อมูลแบบ Index นี้ข้อมูลจะมีความเป็นระเบียบเรียบร้อยมากกว่าการค้นหาข้อมูลด้วย วิธีขิง Search Engine โดยมันจะถูกคัดแยกข้อมูลออกมาเป็นหมวดหมู่ และจัดแบ่งแยก Site ต่างๆออก เป็นประเภท สำหรับวิธีใช้งาน คุณสามารถที่จะ Click เลือกข้อมูลที่ต้องการจะดูได้เลยใน Web Browser จากนั้นที่หน้าจอก็จะแสดงรายละเอียดของหัวข้อปลีกย่อยลึกลงมาอีกระดับหนึ่ง ปรากฏขึ้นมาให้เราเลือกอีก ส่วนจะแสดงออกมาให้เลือกเยอะแค่ไหนอันนี้ก็ขึ้นอยู่กับขนาดของฐานข้อมูลใน Index ว่าในแต่ละประเภท จัดรวบรวมเก็บเอาไว้มากน้อยเพียงใด เมื่อคุณเข้าไปถึงประเภทย่อยที่คุณสนใจแล้ว ที่เว็บเพจจะแสดงรายชื่อของเอกสารที่เกี่ยวข้องกับ ประเภทของข้อมูลนั้นๆออกมา หากคุณคิดว่าเอกสารใดสนใจหรือต้องการอยากที่จะดู สามารถ Click ลงไปยัง Link เพื่อขอเชื่อต่อทางไซต์ก็จะนำเอาผลของข้อมูลดังกล่าวออกมาแสดงผลทันที นอกเหนือไปจากนี้ ไซต์ที่แสดงออกมานั้นทางผู้ให้บริการยังได้เรียบเรียงโดยนำเอา Site ที่มีความเกี่ยว ข้องมากที่สุดเอามาไว้ตอนบนสุดของรายชื่อที่แสดง
4.จงบอกลักษณะของการบริการต่างๆ และยกตัวอย่างช่อแหล่งที่ให้บริการต่อไปนี้
4.1 FTP

ตอบ ftp คืออะไร FTP ย่อมาจาก (File Transfer Protocol) คือ รูปแบบมาตรฐานบนโครงข่าย (standard network protocol) ชนิดหนึ่ง ที่ใช้สำหรับการส่งไฟล์ หรือรับไฟล์ (receive file) ระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เป็นลูกข่ายที่ส่วนใหญ่จะเรียกว่าไคลเอนต์ (client) กับเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เป็นแม่ข่ายที่ส่วนใหญ่จะเรียกว่า โฮสติง (hosting) หรือ เซิร์ฟเวอร์ (server) โดยที่การติดต่อกันทาง FTP เราจะต้องติดต่อกันทาง Port 21 ซึ่งก่อนที่จะเข้าใช้งานได้นั้น จะต้องเป็นสมาชิกและมีชื่อผู้เข้าใช้ (User) และ รหัสผู้เข้าใช้ (password) ก่อน โปรแกรมสำหรับติดต่อกับแม่ข่าย (server) ส่วนมากจะใช้โปรแกรมสำเร็จรูป เช่นโปรแกรม ไฟล์ซิลลา CuteFTP หรือ WSFTP ในการติดต่อ เป็นต้น
4.2 E-mail
ตอบ e-mail เป็นการแลกเปลี่ยนข่าวสารระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยผ่านระบบโทรคมนาคม ข่าวสารหรือข้อความของ e- mail จะเป็นไฟล์ประเภทข้อความ อย่างไรก็ตามสามารถส่งไฟล์ประเภทอื่น เช่น ไฟล์ประเภทภาพหรือเสียง เป็นไฟล์ที่แนบไปในรหัสแบบ binary โดย e- mail เป็นสิ่งแรกที่ใช้อย่างกว้างขวางในอินเตอร์เน็ต และเป็นสัดส่วนใหญ่ในการใช้ traffic บนอินเตอร์เน็ต e- mail สามารถแลกเปลี่ยนระหว่างผู้ใช้ของ online service provider กับระบบเครือข่ายอื่น นอกจากนี้ ภายในอินเตอร์เน็ต e- mail เป็นโปรโตคอลแบบหนึ่งที่รวมอยู่ใน Transport Control Protocol/Internet Protocol (TCP/IP) โปรโตคอลที่นิยมสำหรับการส่ง e- mail คือ Simple Mail Transfer Protocol (SMTP) และโปรโตคอล ที่นิยมในการรับ e- mail คือ POP3 ทั้ง Netscape และ Microsoft ได้รวม e- mail และส่วนประกอบการทำงานใน web browser
4.3 ICQ
ตอบ ICQ สำหรับคนรุ่นใหม่ผู้ใช้งาน Instant Messaging หรือ IM คงอาจไม่รู้จัก ICQ ผู้นำ IM ในยุคแรกๆ ปัจจุบัน ICQ ยังเป็นอีกหนึ่งฟรี IM ที่ยังคงผุ้ใช้งานมากพอสมควร ถึงแม้จะไม่ดังเท่า MSN, Yahoo IM ก็ตาม แต่ถ้าเราลองมาเปรียบเทียบ ความสามารถแบบตัวต่อตัว หรือ Features ต่อ Features ผมก็ยังเห็นว่า ICQ กินขาด เพราะ ICQ ยังมีความสามารถมากมายก่ายกอง ไม่ว่าจะเป็นเรือง การส่งเสียง (Voice) หรือวีดีโอ (Video Chat) รวมทั้งสามรถเล่นเกมส์ (Game Center) เตือนวันเกิด และอื่นๆ อีกมากมาย

4.4 Web board
ตอบ เว็บบอร์ด (อังกฤษ: web board, webboard) คือลักษณะของเว็บไซต์ที่ใช้สำหรับการแลกเปลี่ยนบทสนทนา การพูดคุย การอภิปรายในสังคมออนไลน์ นอกจากชื่อเว็บบอร์ดแล้ว ยังมีเรียกกันหลายชื่อไม่ว่า กระดานข่าว กระดานข่าวสาร กระดานสนทนา กระดานสนทนาออนไลน์ ฟอรัม เว็บฟอรัม เมสเซจบอร์ด บุลลิทินบอร์ด ดิสคัชชันบอร์ด ฯลฯ หรือเรียกอย่างสั้นว่า บอร์ด ก็มี
เรื่องราวที่มีการพูดคุยในแต่ละเว็บบอร์ดจะมีการแตกต่างกันไปในแต่ละเว็บบอร์ด บางเว็บบอร์ดจะมีหลายหัวข้อโดยแบ่งแยกย่อยออกไปเช่นที่ปรากฏได้แก่ เครกส์ลิสต์ กูเกิล กรุ๊ปส์หรือ ยาฮู! รู้รอบ หรือตัวอย่างในเว็บบอร์ดไทยได้แก่ พันทิป ประมูล และ เอ็มไทย และหลายเว็บบอร์ดมีเรื่องพูดคุยเฉพาะทางตัวอย่างเว็บบอร์ดไทยอาทิ ไทยแวร์ นาริสา ในด้านคอมพิวเตอร์ หรือ Soccersuck ในด้านฟุตบอล Thaigaming ในด้านวิดีโอเกม ส่วนเว็บบอร์ดที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นคือ 2channel
การใช้งาน
ผู้ใช้งาน
เราสามารถจำแนกผู้เข้าใช้งานกระดานข่าวสารได้เป็น 4 ส่วนตามลักษณะสิทธิของการเข้าถึง คือ
1.ผู้ดูแลระบบสูงสุด - ผู้ที่มีอภิสิทธิ์เหนือกว่าทุกคนและมีสิทธิพิเศษที่ผู้อื่นไม่มี คือ การลบผู้ใช้งานที่อยู่ระดับต่ำกว่าตนเอง เป็นต้น
2.ผู้ดูแลระบบทั่วไป - ผู้ที่เข้าไปจัดการกับกระทู้ต่างๆให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อย เช่น การย้ายกระทู้ไปในหมวดที่ถูกต้อง ลบกระทู้เก่าๆ เป็นต้น 
3.ผู้ใช้ที่เข้าระบบโดยการกรอกชื่อและรหัสผ่าน - ผู้ใช้งานที่มีสิทธิบางอย่างเหนือกว่ามากกว่าผู้ไม่ประสงค์ออกนาม ได้แก่ การแก้ไขคำตอบกระทู้ และการลบกระทู้ของตัวเอง เป็นต้น 
4.ผู้ใช้ที่ไม่ประสงค์ออกนาม - ผู้ที่ไม่ได้เข้าระบบโดยการกรอกชื่อและรหัสผ่าน จะไม่ได้รับสิทธิบางประการ เช่น การแก้ไขตอบกระทู้ ลบกระทู้ของตัวเอง เป็นต้น 
ผู้ใช้ที่ไม่ประสงค์ออกนามมีสิทธิพิเศษบางอย่างที่ไม่เป็นที่พึงต้องการ คือ การก่อกวนกระทู้หรือการปั่นกระทู้ แต่ผู้ดูแลระบบก็สามารถระงับการก่อกวนกระทู้ได้โดยการใช้บทลงโทษที่ได้กำหนดเอาไว้แล้วในส่วนของผู้ควบคุมระบบ
ผู้ให้บริการ
ผู้ให้บริการเว็บบอร์ดสามารถมีเว็บบอร์ดของตัวเองได้หลายวิธีไม่ว่า เขียนโปรแกรมสร้างเว็บบอร์ดของตัวเอง ใช้ซอฟต์แวร์สำเร็จรูปติดตั้งบนเซิร์ฟเวอร์ส่วนตัว หรือขอบริการติดตั้งเว็บบอร์ดส่วนตัวผ่านผู้ให้บริการ


อนวัช ธนสีลังกูร 2/3 เลขที่ 25  54091302153

วันอังคารที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2556

ความรู้เรื่องกีฬา


อนวัช ธนสีลังกูร เลขที่ 25  ปี 2/3 รหัส 54091302153


ความรู้เรื่องกีฬา



1. ฟุตบอล (Football) หรือซอคเก้อร์ (Soccer
http://www.sportphet.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=498999

2. บาสเกตบอล  ( Basketball ) 
http://www.kruchai.net/histhory_Bas.html


3. ปิงปอง หรือ เทเบิลเทนนีส ( TABLE TENNIS)
http://hilight.kapook.com/view/72172





4. เทนนิส (Tennis)
http://www.educatepark.com/story/tennis.php


5. วอลเลย์บอล (Volleyball)

6. ยกนํ้าหนัก (weight lifting)

7. กรีฑา (athletics)

8. มวยไทย (Thai Boxing)

9. ว่ายน้ำ(Swimmimg)

10. มวยปล้ำ (Wrestling)